เตรียมตัวก่อนกู้ธนาคาร
เตรียมตัวก่อนกู้ ธนาคารมีหลักเกณฑ์การพิจารณสินเชื่อ อย่างไร
ข้อมูลดี ๆ เพื่อให้คุณเตรียมตัวก่อนกู้ซื้อบ้านได้ง่ายขึ้น
1. เตรียมเอกสาร
สิ่งสำคัญที่สุดในการซื้อบ้านคือ เรื่องของเอกสาร การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน เอกสารกู้ซื้อบ้านจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่ต้องเตรียมตัวให้ดีเป็นพิเศษ โดยเอกสารที่ต้องเตรียมนั้นอาจจะมีข้อแม้แตกต่างกันไปตามแต่ละธนาคารกำหนด โดยหลัก ๆ มีดังนี้
พนักงานบริษัท
1. สำเนาบัตรประชาชน หรือ สำเนาบัตรข้าราชการ
2. สำเนาทะเบียนบ้าน
3. สลิปเงินเดือน ย้อนหลัง 6 เดือน
4. หนังสือรับรองเงินเดือน
5. รายการบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน (Statement)
6. ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)
7. ทะเบียนสมรส (ถ้ามี)8. ทะเบียนหย่า (ถ้ามี)
*หมายเหตุ : อาจมีเพิ่มเติมแตกต่างกันไปตามแต่ละธนาคาร
เจ้าของกิจการ
1. สำเนาบัตรประชาชน
2. สำเนาทะเบียนบ้าน
3. รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 1 ปี (Statement) ทั้งบัญชีส่วนตัว และ บัญชีกิจการ
4. สำเนาทะเบียนการค้า อายุ 1 ปี ขึ้นไป
5. หลักฐานแสดงการเสียภาษี
6. สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (ถ้ามี)
7. ภาพถ่ายหน้าร้าน หรือ กิจการที่ประกอบอาชีพ
8. ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ (แพทย์, วิศวกร, สถาปนิก, ทนายความ)
9. ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)
10. ทะเบียนสมรส (ถ้ามี)
11. ทะเบียนหย่า (ถ้ามี)
12. สัญญาเช่า (ถ้ามี)
*หมายเหตุ : อาจมีเพิ่มเติมแตกต่างกันไปตามแต่ละธนาคาร
เอกสารหลักทรัพย์ค้ำประกัน
1. สำเนาโฉนดที่ดิน หรือ สำเนากรรมสิทธิ์ห้องชุด
2. สำเนาเอกสารสัญญาซื้อขาย
3. เอกสารหลักฐานการชำระเงินดาวน์
4. แผนที่โดยสังเขปของที่ตั้งหลักทรัพย์ค้ำประกัน
*หมายเหตุ : อาจมีเพิ่มเติมแตกต่างกันไปตามแต่ละธนาคาร
2. ศึกษารายละเอียดของแต่ละธนาคาร
ขั้นตอนต่อไปควรศึกษารายละเอียดในการขอสินเชื่อจากธนาคารให้ดี เพื่อให้การตัดสินใจขอกู้ซื้อบ้านของคุณตรงตามความต้องการมากที่สุด
พนักงานบริษัท คุณสมบัติผู้กู้เบื้องต้น
1. รายได้รวม 15,000 ขึ้นไป
2. อายุงานไม่ต่ำกว่า 1 ปี
3. ไม่ติดแบล็คลิส
เจ้าของกิจการ คุณสมบัติผู้กู้เบื้องต้น
1. เงินเดือนบัญชีไม่ต่ำกว่า 100,000 – 300,000 บาท
2. ทำธุรกิจ 1 ปี ขึ้นไป
3. ไม่ติดแบล็คลิส
3. ปรับบัญชีให้สมดุล
รายรับรายจ่ายของคุณคืออีกหนึ่งปัจจัยหลักที่มีผลกับการพิจารณาขอสินเชื่อโดยตรง ดังนั้นการเตรียมบัญชีให้พร้อมอย่างน้อย 6เดือน – 1 ปี ก็จะช่วยทำให้มีโอกาสในการขอสินเชื่อผ่านมากขึ้น ซึ่งการเตรียมบัญชีนั้นไม่ใช่เพียงการนำเงินเข้าบัญชีเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ แต่หมายถึงการควบคุมรายรับรายจ่ายของคุณให้สมดุลกัน เพื่อแสดงให้ธนาคารทราบว่าคุณมีศักยภาพมากพอที่จะชำระหนี้ได้ อีกทั้งยังเป็นการสร้างวินัยในการใช้เงินของคุณให้พร้อมสำหรับในอีกหลายปีข้างหน้า ที่จะต้องผ่อนชำระในระยะยาว
4. ผ่อนหนี้ให้ตรง เคลียร์หนี้เก่า
หากเคยมียอดหนี้เก่าที่รอการชำระ หรือกำลังผ่อนชำระหนี้ก้อนหนึ่งอยู่ การผ่อนชำระหนี้ให้ตรงตามกำหนด(เครดิตบูโร) ถือเป็นอีกส่วนสำคัญที่ธนาคารจะนำมาพิจารณาในการอนุมัติ เงินกู้ซื้อบ้านของคุณ เพราะการมีวินัยในการผ่อนชำระจะสร้างความน่าเชื่อถือ ให้กับคุณว่าจะสามารถผ่อนชำระเงินกู้ที่ธนาคารอนุมัติได้ตรงตามกำหนด และหากมียอดหนี้เก่าที่เป็นจำนวนเงินไม่เยอะมากนัก ให้รีบปิดหนี้ให้หมดเสียแต่เนิ่น ๆ เพื่อรวมให้ภาระหนี้สิน ของคุณมีน้อยที่สุด โดยเฉพาะคนที่ค้างจ่ายหนี้ไปนาน จนมีรายละเอียดบอกไว้ในเครดิตบูโร หรือที่หลายคนเรียกกันว่า ติดแบล็คลิสต์ หากมีการชำระหนี้ไปเสียแต่เนิ่น ๆ ยอดหนี้ของคุณ จะถูกปรับออก ทำให้มีโอกาสขอกู้ผ่านมากขึ้น
5. เก็บเงินสำรอง ข้อนี้สำคัญไม่น้อยกว่าข้ออื่นๆ
ในการซื้อบ้านมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ทำให้คุณต้องเสียรายจ่ายอยู่บ่อย ๆ การเก็บออมเงินเอาไว้สักก้อน ทำให้ธนาคารมองเห็นความมีวินัยของผู้กู้ และพิจารณาในการปล่อยกู้ได้ง่ายขึ้น
เมื่อรู้วิธีการเตรียมตัวข้อมูลคร่าว ๆ ก็อย่าลืมวางแผนให้รอบคอบ และลองทำตามวิธีการเหล่านี้ดูนะคะ หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์ให้การกู้ซื้อบ้านของคุณมีโอกาสผ่านมากขึ้น ขอแสดงความยินดีล่วงหน้ากับบ้านหลังใหม่ด้วยค่ะ